วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ความแตกต่างระหว่างอาหารสุนัข แบบเม็ดกับแบบเปียก

  โภชนาการอาหารสุนัขนั้นนอกมีสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว อาหารสุนัขยังมีให้เลือกทั้งแบบเม็ดกับแบบเปียก จริงๆแล้วอาหารแต่ละประเภทนั้นมีคุณสมบัติที่ต่างกัน เพื่อให้น้องหมาของเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกัน มาดูกันว่าอาหารสุนัข ประเภทไหนเป็นที่เลือกที่ดีที่สุด ระหว่าง อาหารเม็ด vs อาหารเปียก มาดูกันว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

อาหารสุนัขแบบเม็ด



อาหารสุนัขแบบเม็ด

“อาหารเม็ด” นั้นมีข้อดีคือทำให้ฟันของน้องหมาแข็งแรง ช่วยลดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียต่างๆ ทำให้สุนัขที่กินอาหารเม็ดเป็นหลัก จึงไม่ค่อยมีกลิ่นปากไม่เหมือน สุนัขที่กินอาหารเปียก อีกทั้งการฝึกขบเคี้ยวช่วยให้น้องหมาของเรานั้นได้ผ่อนคลายความเครียด

อาหารเม็ด เก็บรักษาได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสีย และยังสามารถสามารถทิ้่งไว้ให้น้องหมากินได้ตลอดเวลา อีกทั้งอาหารเม็ดถ้านับตามน้ำหนักจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า อาหารเปียกเนื่องจากไม่มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำ อาหารเม็ดจึงประหยัดกว่าอาหารเปียกต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

อาหารสุนัขแบบเปียก

 อาหารแบบเปียก จะค่อนข้างย่อยง่ายกว่าอาหารแบบเม็ด และมีรสชาติที่ถูกปากสุนัขมากกว่าเนื่องจากกินง่าย ส่วนประกอบนั้นทำมาจากโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนผสม ด้วยความที่ย่อยง่ายและน่ากินกว่าอาหารเม็ดจึงเหมาะกับสุนัขที่กินเก่ง มีอายุฟันไม่ค่อยดี หรือมีอาการป่วย

  อาหารแบบเปียก เหมือนจะมีแต่ข้อดีแต่จริงๆ แล้วเนื่องจากอาหารเปียกเนื่องจากกินง่าย นุ่ม จนเหมือนน้องหมานั้นไม่ได้เคี้ยวเลย ทำให้น้องหมาไม่ได้ฝึกขบเคี้ยว และการขบเคี้ยวยังช่วยทำความสะอาดฟัน ออกจากคราบหินปูนและแบคทีเรีย อีกทั้งยังลดกลิ่นปากของน้องหมาด้วย แต่ก็ยังมี นักโภชนาการสัตว์เลี้ยงบางท่านเชื่อว่า อาหารเปียกนั้นมีต่อสุขภาพกว่าอาหารแบบเม็ด เนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนผสมมากกว่านั้นเอง ทำให้น้องหมานั้นได้ทานน้ำมากว่า

       สำหรับการเลือกอาหารสุนัข แบบแห้งกับแบบเปียกนั้น ไม่มีวิธีไหนดีที่สุด นอกจากว่าสะดวกของเจ้าของและน้องหมาเอง เพราะว่าเราสามารถให้น้องหมาของเรากินอาหารเปียก และหาขนมขบเคี้ยว มากินเพื่อฝึกขบเคี้ยวได้ หรือว่าถ้าสุนัขทานอาหารเม็ดก็ให้กินน้ำเสริม อย่างเพียงพอ สิ่งสำคัญคือน้องหมาควรได้รับโภชนาการอาหารสุนัขที่ครบถ้วนด้วย

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสุนัข แบบเม็ดกับแบบเปียก เข้าชมได้ที่เว็บไซต์ เพดดิกรี อาหารสุนัขแบบแห้งและแบบเปียก https://www.pedigree.co.th/

ขอบคุณเว็บไซต์ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=articlesknowledge&month=08-2017&date=30&group=1&gblog=24

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

การให้อาหารแมวแต่ละช่วงวัย




สำหรับทาสแมว ทั้งหลาย ในการเลือกซื้ออาหารแมวนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอย่างที่ทาสแมวรู้กันคือ แมวค่อนข้างเลือกกินอาหาร ถ้าไม่ถูกใจอาหาร  หรือไม่คุ้นเคยนั้นพร้อมที่จะเบือนหน้าหนี ได้ทุกเมื่อเลยก็ได้ อย่างที่เข้าใจคืออาหารแมวที่ดีที่สุดนั้นอาจไม่เหมาะสมกับเจ้าแมวเหมียวของเราก็ได้ ยิ่งลูกแมวแล้วการให้กินอาหารควรต้องพิถีพิถัน เป็นพิเศษ มาดูกันว่าการให้อาหารแมวแต่ละช่วงอายุเป็นอย่างไรบ้าง


อาหารสำหรับลูกแมว
ลูกแมวเพิ่งคลอดควรให้เขากินนมแม่ไปตลอดจนหย่านมไปเอง ลูกแมวไม่ควรหย่านมเมื่ออายุไม่ถึง 45 วันเพราะ ลูกแมวจะมีสุขภาพไม่สมบูรณ์สำหรับการเจริญเติบโตในอนาคตได้ สำหรับลูกแมวนมนั้นก็ยังถือว่าเป็นอาหารที่สำคัญมาก ถ้าลูกแมวหย่านมแล้วก็ควรให้กินนมเพิ่มเติม พร้อมอาหารประเภทเนื้อได้แล้ว และต้องคอยสังเกตุว่าลูกแมวมีอาการท้องเสียไหม ลูกแมว 3 เดือนจะเริ่มกินอาหารประเภทเนื้อ แต่ควรสับให้ละเอียด ส่วนลูกแมวที่กำพร้า หรือยังไม่หย่านมควรชงนมให้กินแทนนมแม่ และดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องระวังเรื่องความสะอาดและคุณภาพของนมอย่าให้เสียหรือบูดเพราะจะทำให้ลูกแมวท้องเสียได้ นมที่ใช้เลี้ยงลูกแมวกำพร้าอาจใช้ นมวัวสด นมผงเลี้ยงทารก หรือนมสดยู.เอช.ที ผสมน้ำและวิตามิน นำมาอุ่นอุณหภูมิประมาณ 98-100 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ อังพออุ่นมือจับได้กรอกใส่ขวดยางป้อนลูกแมว


อาหารสำหรับแมวโต
ลูกแมวที่กำลังโตเป็นแมวโต หรือเริ่มหย่านมแล้ว อาหารที่ให้เขาควรลดมื้ออาหารลงได้ จาก 4-5 มื้อลดมาแค่ 3 มื้อและถ้าลูกแมวโตเต็มวัยหนุ่มก็อาจลดเหลือแค่ 2 มื้อ เช้า เย็นและควรฝึกแมวเหมียวนั้นให้กินอาหารเป็นเวลา ไม่ควรทึ้งอาหารไว้นานจนเกินไปเพราะอาจทำให้อาหารบูดหรือเสียได้ ถ้าแมวเหมียวกินข้าวไปทำให้ท้องเสียได้


อาหารสำหรับแมวแก่
แมวสูงอายุหรือแมวแก่นั้นควรลดปริมาณการให้อาหารลงเพราะว่า เขาต้องใช้พลังงานที่น้อยลงจึงไม่จำเป็นต้องทานอาหารมากนัก ถ้ากินอาหารมากเกินไปจะทำให้นำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็นแมวอ้วน ซึ่งอาหารที่ให้แมวแก่กินควรย่อยง่าย เช่น วิตามิน เนื้อที่ย่อยง่าย ไม่มีผังผืด อาหารไม่มีไขมัน น้ำตาล เพราะจะให้อ้วน และไม่ควรให้อาหารปริมาณมากเกินไป เพราะถ้ากินเข้าไปมากๆ ทำให้ท้องไม่ย่อย แน่นท้อง ท้องอืดได้


อาหารสำเร็จรูปสำหรับแมว
การให้อาหารสำเร็จรูปสำหรับแมวนั้น ไม่ควรให้อาหารแบบเดิมซ้ำๆ หรือชนิดเดียว ควรให้อาหารแมวแบบเม็ด กับแบบเปียก ผสมกันไป เนื่องจากอาหารแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป
อย่างอาหารเปียกนั้นเหมาะกับแมวที่กินน้ำน้อย และเบื่ออาหาร เนื่องจากอาหารแบบเปียกมีกลิ่นหมอ เนื้อนุ่ม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ทำให้แมวนั้นได้กินน้ำไปด้วย ส่วนอาหารเม็ดก็ทำให้แมวนั้นได้ขัดฟัน และได้ฝึกกลามให้การเคี้ยวอาหาร ทำให้แมวนั้นมีฟันที่แข็งแรงอีกด้วย


สำหรับการเลือกอาหารแมวเหมียวของเราควรเลือกอาหารที่เหมาะสมที่สุดกับเขา เพราะนอกจากมีเรื่อ

โภชนาการที่ดีแล้ว ถ้าน้องเหมียวไม่กินอาหารที่เราจัดให้หรือเบื่ออาหารก็ทำให้เขานั้นได้รับสารอาหารอย่างไม่เพียงพอ และมีผลเสียต่อสุขภาพของน้องเหมียวด้วย
ขอบคุณบทความจาก ผลิตภัณฑ์อาหารแมว whiskas
https://www.whiskas.co.th/kitten/health/feeding-tips


วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560

คำแนะนำ ในการสั่งกาแฟ Espresso ในอิตาลี

     หลายๆ ท่านที่เป็นนักท่องเที่ยว เวลาไปเที่ยวในประเทศอิตาลี สิ่งที่ต้องลิ้มลองเลย ก็คือกาแฟ Espresso ซึ่งปกติแล้วที่อิตาลี ถ้าเราสั่งกาแฟปกติ หนึ่งแก้วจะไม่มี กาแฟใส่น้ำเชื่อม หรือ นมให้เราทานกันนะครับ กาแฟที่นี่เขาจะมีแค่ กาแฟ Espresso อย่างเดียวและต้องยืนดื่มที่เคาน์เตอร์เวลาสั่ง การสั่งกาแฟบางครั้งอาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่จริงๆ แล้วมีรายละเอียดบางอย่างเหมือนกันซึ่งเป็นวัฒนธรรมชั้นสูงเลยทีเดียว ลองมาดูคำแนะนำในการสั่งกาแฟ ในประเทศอิตาลีกันนะครับว่ามีอะไรบ้าง



1.สั่งกาแฟให้เหมือนว่าเคยมาที่นี่แล้ว
เวลาสั่งกาแฟในอิตาลี อารมณ์ไม่เหมือนเรานั่งทานกาแฟที่เมืองไทย ที่นั่งคุยสังสรรค์สนทนากัน  เนื่องจากบาร์ของอิตาลี ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมายืนต่อแถวเพื่อที่จะสบตากับบาริสต้า คุณต้องเดินไปที่เคาน์เตอร์และพร้อมสั่งกาแฟที่คุณต้องการมาดื่มเพื่อลิ้มรสกาแฟเข้มๆสักแก้ว

2.จ่ายให้เหมือนเป็นคนอิตาลี
เนื่องจากการชำระเงินของบาร์ใน อิตาลีมีหลากหลายรูปแบบ ปกติต้องสั่งและชำระเงินที่แคชเชียร์ แล้วจึงนำใบเสร็จไปรับกาแฟ กับบาริสต้า แต่ในบางร้านต้องสั่งกาแฟที่บาร์ และดื่มให้เรียบร้อยก่อน และจึงค่อยแจ้งพนักงานว่าดื่มอะไรไป ก่อนจะสั่งกาแฟลองศึกษาดูก่อนว่าคนท้องถิ่นเขามีวิธีการสั่งอย่างไรบ้าง

3.กาแฟดำสุดคลาสสิก
ที่อิตาลีสั่งกาแฟ (ลาเต้) หรือ cappuccino (คาปูชิโน่) ได้แค่ช่วงเช้าเท่านั้น แต่ในระหว่างวันจะมีแค่กาแฟ  แบบคลาสสิก ให้ดื่มเท่านั้น

4.ไม่ควรพูดถึง กาแฟ Espresso (เอสเพรสโซ่)
ในประเทศอิตาลีคุณไม่จำเป็นต้องสั่ง กาแฟ Espresso (เอสเพรสโซ่) เวลาสั่งกาแฟ แค่สั่งกาแฟเป็นภาษา อิตาลี คือ un caffè ดูเข้าใจง่ายและคลาสสิคดี

5.ค่อยดื่มๆ ระวังกาแฟร้อน
ก่อนจะจิบกาแฟต้องระวังเรื่องความร้อน ควรรอสักครู่ก่อนที่จะเริ่มจิบกาแฟ เพราะถือว่าเป็นธรรมเนียมของบาริสต้า ของชาวอิตาลี ที่ต้องอุ่นแก้วกาแฟให้ร้อนก่อนดื่ม

6.หลีกเลี่ยงเมนูกาแฟสำหรับ นักท่องเที่ยวทั่วไป
หากคุณไปเที่ยวกับ esperti (ผู้เชี่ยวชาญกาแฟในท้องถิ่น) ให้เลือกดื่มกาแฟคลาสสิกแทนกาแฟที่นิยมทั่วไป เว้นแต่ว่าคุณชอบกาแฟเฉพาะพื้นที่ที่มีเสน่ห์ เช่น un caffè alla nocciola (กาแฟเอสเพรสโซ่ผสมเฮเซลนัท) ในเมืองเนเปิล ลองสั่งเมนูแบบนี้ดูสิ con poca schiuma, cappuccino con tanta schiuma, cappuccino ben caldo, cappuccino tiepido, Chiaro, Scuro นอกจากนี้ยังมี un caffè in tazza grande, macchiato freddo, macchiato caldo, macchiato Chiaroและ macchiato Scuro หรือถ้าคุณอยากได้ความสดชื่น ลองสั่ง un caffè corretto (กาแฟเอสเพรสโซ่พร้อมด้วยบรั่นดีหรือแกรปป้าหนึ่งช็อต)

7.ดื่มกาแฟแบบชาวอิตาลี
ใน วัฒนธรรมของชาวอิตาลีกาแฟมาตรฐานคือกาแฟ espresso (เอสเพรสโซ่) แก้วเล็กที่วันหนึ่งสามารถดื่มได้หลายครั้ง ในระหว่างวันคุณอาจต้องพักดื่มกาแฟหลายครั้งต่อวัน เพื่อให้ลิ้มรสกาแฟอิตาลีได้ตามต้องการ

อย่าลืมนะครับเวลาไปเที่ยวอิตาลี นอกจากเจลาโต้ พิซซ่าอิตาลีแล้ว กาแฟ espresso (เอสเพรสโซ่) ก็เป็นอีกเครื่องดื่ม ที่ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองกันครับ


วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

รีวิวร้านอาหารหรูบรรยากาศดี ราคาไม่แพง Harvest Moon เพชรเกษม 69

         ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ คนมีความรักหลายๆ คู่ก็ต่างพาแฟนไปกินข้าว ดูหนัง ช๊อปปิ้งกัน สำหรับในปีนี้ เนื่องจากเจอปัญหารถติดอย่างหนัก เกิดจากหลายๆ ครอบครัวออกไปเที่ยวกัน ในวันเสาร์  มันจะติดไรนักหนา เอาวะ กินข้าวในซอยบ้านตัวเองนิละ ขับรถไปนิดเดียวก็ถึง ไม่วายรถดันติดในซอยอีก ผมนี่เซ็งเลยครับ เอาละบ่นพอละ มาดูรีวิวร้าน Harvest Moon กันครับ

           มาพูดถึง ร้านอาหารในซอยบ้าง ผมเห็นชื่อร้าน Harvest Moon ตอนแรกนึกถึง เกมส์สมัยก่อนเ เลยครับที่ตอนเด็กชอบเล่นกัน แล้วยิ่งร้านมีสระน้ำ มีสวนองุ่นหน้าร้านด้วยแล้ว ไม่แน่เขาอาจได้แรงบันดาลใจมาจากเกมส์ ปลูกผัก ก็เป็นได้

เวลาเปิดบริการ : จ. - พฤ. : 11:00 - 14:00, 17:00 - 22:00 ศ. - ส. : 17:00 - 22:00

 
 ลานจอดรถหน้าร้านจอดได้หลายคันอยู่ ด้านในมีที่จอดรถได้ประมาณ 20 คันได้ วันนี้คนเยอะครับที่จอดเต็มหมด

 ทางเดินเข้าไปในร้านจะเป้นเหมือนอุโมงและจะมีต้นไม้ปลูกริมทางตลอดสองฝั่ง ดูร่มรื่นดี
 
บรรยากาศในร้านจะเป็นสวนทั้งหมด และมีสนามให้เด็กวิ่งเล่นด้วย 

 ภาพถ่ายจากริมน้ำ

 โซนด้านใน จะมีดนตรีสดเล่นและ มีทีวีให้ดูบอลเพลินๆ ด้วยครับ

โซนตรงค็อกเทล ผมได้นั่งตรงนี้ โอเคดีใกล้ห้องน้ำ

โซนริมสระน้ำครับวันนี้คนเยอะมากมีคนจองหมดแล้วเศร้าเลย อยากดินเนอร์กลางแสงเทียน 

แกงส้มไข่ชะโอมกุ้ง 150 บาท กุ้งเยอะมาก รสชาติไม่จัดมากใช้ได้ครับ

 ยำถั่วพลูกุ้งสด อร่อยครับออกหวานๆ เปรี้ยวๆ ราคา 100 บาท เมนูนี้ผมห่อกลับบ้านครับทานไม่หมด

 ปลาหมึกไข่เค็ม 120 บาทอร่อยไม่เค็มมากครับ ไข่เค็มเหมือนผสมมันกุ้งด้วย ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือป่าว

 ผักขมอบชีด 120 บาทครับอันนี้ผมชอบเลยอร่อยมากชีสมาแบบยืดๆ เลยหอมอร่อยครับ

ข้าวสวยเป็นข้าวหอมมาเป็นเม็ดๆ ครับพอได้


     สรุปสำหรับใครที่อยู่แถวซอยเพชรเกษม 69 คิดอะไรไม่ออกมาลองร้าน  Harvest Moon ได้ครับส่วนตัวผมคิดว่าไม่แพงเลย กับข้าวที่ให้มาก็เยอะพอสมควรผมไปสองคนทานแทบไม่หมดครับต้อง เอายำถั่วพลูกุ้งสด ห่อกลับบ้านด้วย แถมมีดนตรีเล่นสดเป็นโฟคซองครับ เล่นประมาณ 2 ทุ่มครับ เช็คบิลมารวมน้ำด้วย 580 บาทครับ ลองแวะมาทานกันได้ครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณรูปจาก ร้านบางส่วนด้วยนะครับ ที่ผมนำมาประกอบรีวิว

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

เปิดประสบการณ์ใหม่ไปเที่ยวเมือง เทียนจิน

     



ประเทศจีนอาจเป็นประเทศที่หลายๆ ท่านมองข้าม เพราะคิดว่าเมืองจีนนั้นไม่มีอะไรใหม่ หรืออาจจะะเป็นความล้าหลังในสมัยก่อนแต่ขอบอกเลยว่าตอนนี้เมืองจีนมีอะไรหลายๆ อย่างที่น่าสนใจทีเดียว อย่างเมืองเทียนจินที่ขึ้นชื่อในเรื่องที่เป็นเมืองที่พรั่งพร้อมด้วยสถานที่ธรรมชาติอันสวยงามตระการตา ราวกับสรวงสวรรค์เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมที่เหมือนเป็นเมืองที่อยู่ในยุโรป และที่สำคัญยังใกล้กับเมืองปักกิ่งด้วยการเดินทางไม่ถึง 30 นาทีด้วยรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย มาดูกันว่าเทียนจินมีอะไรบ้าง

กินดื่มอย่างเพลิดเพลิน
·         เทียนจินมีย่านท้องถิ่นที่มีำเลยแพนเค้กเทียนจิน ขนมสุดเลิศรสที่ขายทั่วไป ขนมเลิศรสที่ขายตามซอยทั่วเมือง หรือ โกว ปา ช่าย ที่เสิร์ฟเป็นจานพร้อมแพนเค้กสไลด์เป็นแผ่นๆ วางบนซอสเกรวี่เดือด
·         ซาลาเปาชื่อดังของเทียนจินก็มีให้ชิม ลิ้มรสความอร่อยของไส้หมูและเครื่องเทศในร้านโกวปู้หลี อยู่เลขที่ 77 ถนนซานตง

ขาช้อปปิ้งไม่ควรพลาด
       นักช้อปปิ้งรับรองได้ต้องใช้เวลาทั้งวันสำหรับการเดินช้อปปิ้งบนถนนคนเดินปินเจียง ซึ่งมีห้างขนาดใหญ่ไว้รองรับนักท่องเที่ยว มีสินค้าขายทุกอย่างตั้งแต่สินค้าชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนกันเลยทีเดียว สินค้าของเทียนจินที่เป็นไฮไลท์คือตุ๊กตาดินเหนียวตะกูลจาง  (หนี เหริน จาง) เป็นศิลปะพื้นบ้านที่มีชื่อเสียง โดยแสดงในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่หญิงสาวไปจนถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ หรือจะซื้อของฝากให้คนที่บ้าน แนะนำเม็ดเกาลัดเสี่ยวเปา ก็เป็นของขึ้นชื่อที่นี่เหมือนกัน

สนุกสุดเหวี่ยงในยามค่ำคืน
         ถ้าคุณเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนกินดื่มและอย่างมันแบบวัยรุ่นแนะนำให้ไปที่บาร์ สการ์เลต ถนนเหว่ยจิ่น ซึ่งเป็นจุดที่ชื่นชอบขอบรรดาวัยรุ่น นักศึกษา บาร์ที่นี่ใกล้กับมหาลัยขึ้นชื่อในเมืองอีกสองแห่ง หรือคุณชอบนั่งดื่มสบายๆ ฟังเพลงแนะนำ บาร์ ซื่อตง ตั้งอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของ ตึกแอสคอท ซ้มเมอร์เซต โอลิมปิกทาวเวอร์ เป็นอีกที่คุณควรแวะมาลองสัมผัสบรรยากาศดู
ถ้าท่านสนใจที่อยากมาเที่ยวที่เทียนจิน ตอนนี้มีสายการบินที่บินตรงมาถึงที่นี่เลย ไปจองตั๋วเครื่องบินกันได้ที่เว็บไซต์นกสกู๊ตกันครับ
ขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวเทียนจินและภาพประกอบบทความจาก